การทำขนมไทยในเมนูขนมเปียกปูนกะทิสด
ขนมเปียกปูนแบบนี้จะต่างจากเปียกปูนแบบเดิมตรงที่เราจะกินคู่กับกะทิสดนั่นเองค่ะ มักจะทำเป็นถ้วย เนื้อเปียกปูนจะนิ่มหนึบ ไม่แข็งเท่าแบบชิ้นเหลี่ยมๆ พร้อมราดด้วยกะทิสด ตบท้ายด้วยการโรยงาคั่วหอมๆ
ประวัติของขนมเปียกปูนกะทิสด
ก่อนจะมาเป็นขนมเปียกปูน สมัยก่อนในชุมชนมีผลไม้ตามฤดูกาลที่หลากหลายรวมทั้งมะพร้อมซึ่งเป็นส่วนผสมในการทำขนมนานาชนิด และในสมัยนั้นไม่การซื้อขาย นอกจากแต่ละครอบครัวจะทำรับประทานกันเองจึงได้มีการคิดที่จะปรับปรุงแต่งอาหารไว้เพื่อการบริโภคเองในครอบครัว และสำหรับเลี้ยงในงานบุญต่างๆเช่น งานบวช งานแต่ง งานบุญขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งเวลาที่มีงานชาวบ้านก็จะมาช่วยกันทำขนมถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันให้กับคนในชุมชน
ขนมเปียกปูน จัดเป็นอาหารที่คนในสมัยก่อนได้คิดประดิษฐ์ขึ้นโดยดัดแปลงมจากขนมกวนหรือกาลาแม แต่ไม่มีการใส่กะทิที่มีชื่อว่า ขนมเปียกปูน ก็เพราะส่วนผสมไทยชนิดนี้มีน้ำปูนใส เป็นส่นประกอบสำคัญอยู่ด้วย เป็นขนมไทยโบราณอีกชิดหนึ่งที่ยังหาทานได้ในปัจจุบันขนมจะมีลักษณะนิ่มๆมีมะพร้ามขูดฝอยโรยหน้าสีขนมจะเป็นสีดำซึ่่งคนในสมัยโบราณใช้ภูมิปัญญาในการหาสีดำจากธรรมชาติโดยใช้กาบมะพร้ามเผา แต่ในปัจจุบันมีการดัดแปลงสูตร จากขนมเปียกปูนสีดำมาเป็นมีสีเขียวโดยใช้น้ำใบเตย้ป็นส่วนผสมแทนกาบมะพร้ามเผา
ขนมเปียกปูนกะทิสด
การทำขนมไทยในเมนูขนมเปียกปูนกะทิสด
ขนมเปียกปูนแบบนี้จะต่างจากเปียกปูนแบบเดิมตรงที่เราจะกินคู่กับกะทิสดนั่นเองค่ะ มักจะทำเป็นถ้วย เนื้อเปียกปูนจะนิ่มหนึบ ไม่แข็งเท่าแบบชิ้นเหลี่ยมๆ พร้อมราดด้วยกะทิสด ตบท้ายด้วยการโรยงาคั่วหอมๆ
ประวัติของขนมเปียกปูนกะทิสด
ก่อนจะมาเป็นขนมเปียกปูน สมัยก่อนในชุมชนมีผลไม้ตามฤดูกาลที่หลากหลายรวมทั้งมะพร้อมซึ่งเป็นส่วนผสมในการทำขนมนานาชนิด และในสมัยนั้นไม่การซื้อขาย นอกจากแต่ละครอบครัวจะทำรับประทานกันเองจึงได้มีการคิดที่จะปรับปรุงแต่งอาหารไว้เพื่อการบริโภคเองในครอบครัว และสำหรับเลี้ยงในงานบุญต่างๆเช่น งานบวช งานแต่ง งานบุญขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งเวลาที่มีงานชาวบ้านก็จะมาช่วยกันทำขนมถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันให้กับคนในชุมชน
ขนมเปียกปูน จัดเป็นอาหารที่คนในสมัยก่อนได้คิดประดิษฐ์ขึ้นโดยดัดแปลงมจากขนมกวนหรือกาลาแม แต่ไม่มีการใส่กะทิที่มีชื่อว่า ขนมเปียกปูน ก็เพราะส่วนผสมไทยชนิดนี้มีน้ำปูนใส เป็นส่นประกอบสำคัญอยู่ด้วย เป็นขนมไทยโบราณอีกชิดหนึ่งที่ยังหาทานได้ในปัจจุบันขนมจะมีลักษณะนิ่มๆมีมะพร้ามขูดฝอยโรยหน้าสีขนมจะเป็นสีดำซึ่่งคนในสมัยโบราณใช้ภูมิปัญญาในการหาสีดำจากธรรมชาติโดยใช้กาบมะพร้ามเผา แต่ในปัจจุบันมีการดัดแปลงสูตร จากขนมเปียกปูนสีดำมาเป็นมีสีเขียวโดยใช้น้ำใบเตย้ป็นส่วนผสมแทนกาบมะพร้ามเผา
ขนมเปียกปูนกะทิสด
ส่วนผสม
• แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
• แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำปูนใส 1 ถ้วยตวง
• น้ำใบเตย 2 ถ้วยตวง
• เกลือเล็กน้อย
• น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำตาลปี๊บ 120 กรัม
• กะทิ 500 กรัม
• เกลือแค่หยิบมือ
• แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่ที่ใส่เพื่อให้น้ำกะทิข้น)
• งาขาวคั่ว
วิธีทำ
1.นำแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำปูนใส และน้ำใบเตยผสมกันและนวดจนเข้ากันดี
2.ใส่เกลือ น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลปี๊บ นวดต่อจนเข้ากันดี
3.กรองส่วนผสมแป้งด้วยตะแกรง 1 รอบ
4.ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการเอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้วค่ะ
5. ตักขนมเปียกปุนใส่ถุงบีบ และใช้หัวบีบแต่งหน้าเค้ก บีบใส่ถ้วย
วิธีทำกะทิราดหน้า
ใส่หัวกะทิลงในหม้อ ตามด้วยเกลือ ใส่แป้งข้าวเจ้า คนผสมจนเดือด เสร็จแล้วตักกะทิราดหน้าขนมเปียกปูนเลยค่ะ อย่าลืมโรยงาขาวคั่วหอม ๆ
4.ตั้งกระทะเปิดไฟปานกลาง ใส่แป้งลงไปกวน พอแป้งเริ่มจับตัวเป็นก้อนให้ลดเป็นไฟอ่อน ค่อย ๆ กวนต่อจนส่วนผสมเนียนเข้ากันดี สังเกตจากการเอาไม้พายตักแป้งขึ้นมา ถ้าแป้งเหนียวติดไม้พายก็ใช้ได้แล้วค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น