วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561



              การทำขนมไทยในเมนูขนมถั่วแปบ    เป็นขนมไทยอีกเมนูที่ทำจากแป้งและก็มีส่วนผสมของถั่วเหลืองที่เป็นส่วนประกอบหลักของขนมชิ้นนี้  ถ้าได้กินแล้วจะติดใจ  ส่วนรสชาติก็จะอร่อย  หวานเหนียวนุ่ม

ประวัติของขนมถั่วแปบ
    สมัยก่อนมีชาวบ้านทำขนมไทยขาย แล้วไปๆ มาๆ ขนมที่ใช้ถั่วทำ กลับขายดีมาก ลูกค้าต่างรอคิวกันยาวเหยียด ด้วยความที่เข็มขัดสั้นของแม่ค้า (คาดไม่ถึง) ทำให้จำนวนถั่วที่เตรียมมาไม่พอ 
แต่พอหันไปมองหน้าลูกค้าแต่ละคนที่ต่อคิวรอมาตั้งนาน ก็ไม่อยากให้ผิดหวัง แม่ค้าเลยใช้สามีให้ไปซื้อถั่วมาเพิ่ม ส่วนตัวแม่ค้าจะคอยรับหน้าลูกค้าเอง ด้านสามีก็กุลีกุจอขึ้นรถเทียมม้า ไป 7-11 หน้าปากซอย โดยไม่ลืมที่จะหันไปบอกลูกค้าที่กำลังรออยู่ว่า "ใครซื้อขนมถั่วรอแป๊บนะขอรับ"
แต่ไม่ว่าจะซื้อเพิ่มมาเท่าไหร่ ก็ยังไม่เคยเพียงพอต่อจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามีต้องไปซื้อถั่วเพิ่มวันละหลายรอบ จากที่เคยพูดว่า "ใครซื้อขนมถั่วรอแป๊บนะขอรับ" สามีแม่ค้าค่อยๆ ตัดคำทีละน้อยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเป็น "ซื้อขนมถั่วรอแป๊บ" และ "ขนมถั่วรอแป๊บ"
จนอยู่มาวันนึง เป็นช่วงสงคราม ทหารจากญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาตั้งค่ายในไทย ระหว่างทางได้เห็นชาวบ้านยืนมุงเป็นกลุ่มก้อนอยู่หน้าบ้านหลังนึงอย่างล้นหลาม ยังความสงสัยมาให้ท่านแม่ทัพทาเคชิ ว่าพวกชาวบ้านมายืนทำอะไรกัน ท่านแม่ทัพจึงใช้ทหารหนุ่มคนสนิทนามว่า ชินเอมอนซัง เข้าไปสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ชินเอมอนซัง สืบมาได้ว่า พวกชาวบ้านกำลังต่อคิวซื้อขนมอยู่ ชินเอมอนซัง ต้องการนำขนมไปให้ท่านแม่ทัพได้ลองชิม แต่บังเอิญเป็นจังหวะที่ขนมหมดพอดี จะอยู่ที่ร้านนานก็ไม่ได้ เดี๋ยวท่านแม่ทัพจะรอ ชินเอมอนซัง จึงตัดสินใจเข้าไปถามสามีแม่ค้า ว่าขนมชื่ออะไร เดี๋ยวคราวหลังค่อยมาหาซื้อไปให้ท่านแม่ทัพชิมก็ได้
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอื้อนเอ่ย สามีแม่ค้าก็ตะโกนสวนมาเสียก่อน ด้วยถ้อยคำที่คุ้นเคย "ขนมถั่วรอแป๊บบบ" อ้า..ชินเอมอนซัง ได้ยินดังนั้นก็รีบควบม้ากลับไปบอกท่านแม่ทัพ แต่ด้วยความที่ภาษาไทยยังไม่แข็งแรงพอ จึงรายงานท่านแม่ทัพตามความเข้าใจไปว่า "พวกเขามายืนรอซื้อ "ขนมถั่วแปป" ขอรับ"
จากนั้นเป็นต้นมา "ขนมถั่วแปป" จึงเป็นหนึ่งในขนมยอดฮิตที่ชาววัง ใช้ทำต้อนรับแขกบ้านแขกเรือน และภายหลังถึงเริ่มรู้จักกันอย่างแพร่หลายมาจนถึงกาลปัจจุบัน



                                                      ขนมถั่วแปบ
ที่มา:http://patampatan.com




ส่วนผสม
  • ถั่วเขียวเราะเปลือก (นึ่ง 15 นาที) 1/2 ถ้วย
  • มะพร้าวทึนทึก ขูดเส้น 2 ถ้วย
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
  • แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  • น้ำใบเตย 1/4 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา สำหรับโรยหน้า
  • งาขาวและงาดำคั่ว
วิธีทำ
  1. ผสมถั่วเขียวเราะเปลือกนึ่ง มะพร้าว เกลือป่น และน้ำตาล ผสมในชามผสมแล้ววางพักไว้
  2. หันมาทำแป้งโดยใช้แป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำใบเตย ใส่น้ำใบเตยทีละนิด นวดให้เข้ากัน หากทำสีอื่นก็เปลี่ยนจากน้ำใบเตย เป็นน้ำฟักทอง น้ำแดง หรือน้ำอัญชัน
  3. ปั้นแป้งเป็นก้อนวงกลม แล้วกดให้แบน นำไปต้มจนแป้งสุกลอยขึ้นมาจากก้นหม้อ
  4. นำแป้งที่ต้มไปแช่ในน้ำเย็น จากนั้นก็นำมาคลุกกับถั่วแล้วจับแป้งให้เป็นก้อนเรียวๆ เหมือนในรูป
  5. ทำจนหมดแล้วนำมาเรียงใส่จาน โรยด้วยน้ำตาลทรายงาขาวและงาดำ








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น