วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2561




         การทำขนมไทยในเมนูกล้วยบวชชี   เป็นขนมหวานชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นขนมที่ดูเหมือนธรรมดา แต่มีความเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า มะพร้าวหรือน้ำกะทิเป็นวัตถุดิบที่คนไทยนำมาใช้ประกอบอาหาร ตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบัน

ประวัติของกล้วยบวชชี
กล้วยบวชชี   เป็นขนมหวานชนิดหนึ่งที่คนทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นขนมที่ดูเหมือน ธรรมดา แต่มีความเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า มะพร้าวหรือน้ำกะทิเป็นวัตถุดิบที่คนไทยนำมาใช้ประกอบอาหาร ตั้งแต่สมัยโบราณจนปัจจุบัน หรือจะใช้กล้วยไข่ก็ได้  เป็นขนมไทยพื้นบ้านของชาวไทย ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย คนส่วนมากจะรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวอีสานสมัยก่อนนิยมทำขนมกล้วยบวชชี เพื่อรับประทานเองภายในครอบครัวหลังจากที่เหนื่อยจากการทำไร่-นา หรือทำเกษตรกรรม โดยใช้วัสดุจากกล้วย ที่มีอยู่ในบ้านและทุ่งนาของตนเอง นอกจากนั้นยังแบ่งไปทำบุญที่วัด และใช้รับรองแขก ปัจจุบันหลายครอบครัวเริ่มเลิกราห่างหายกันไปเนื่องจากเห็นว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เสียเวลา และสามารถซื้อหาได้ง่ายตามตลาดทั่ว ๆ แต่ก็ยังคงเหลือเป็นบางครอบครัวที่สานต่อ รักษาสืบทอดการทำขนมกล้วยบวชชี คงไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ อนุรักษ์สืบสาน และเพื่อขายสำหรับเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว



         
                           กล้วยบวชชี






ส่วนผสม


  1. กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี
  2. กะทิทำขนม มีหลายกลิ่น เลือกตามชอบเลย 1 กล่องเล็ก
  3. น้ำเปล่า 250-300 มิลลิลิตร
  4. น้ำตาลทราย ใครชอบหวานก็เพิ่มได้ตามชอบ 4 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 1 ช้อนชา
  6.     

    วิธีทำ

1.ผสมกะทิกล่อง กับน้ำเปล่า เกลือ น้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลาย พักไว้    

2.ปอกกล้วยน้ำว้า หั่นสี่ส่วน                                                                        
3.นำกะทิที่ผสมไว้ ตั้งไฟอ่อนๆ ระวังกะทิแตกมัน                                      
4.ใส่กล้วยที่หั่นไว้
  1. 5.คนไปเรื่อยๆ จนกล้วยสุก สังเกตุจากเนื้อกล้วยเริ่มนิ่ม
    6.ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟคนที่นั่งรอของหวานได้เลย





                                                        ลิงก์:https://www.youtube.com/watch?v=RYVeKP7lgUc




    1.     











      1.                  













    วิธีทำ




























    1.     



         








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น